แจกเคล็ดลับ! วิธีซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์เฉพาะจุด - ขัดพื้นปาร์เกต์ด้วยตัวเอง

การซ่อมแซมพื้นไม้ปาร์เกต์ที่บ้านอาจเป็นงานที่ท้าทายสำหรับหลายๆ คน หลายครั้งที่เราอาจประสบปัญหากับพื้นไม้ปาร์เกต์ที่เสียหาย และไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นซ่อมแซมอย่างไร บทความนี้จะนำเสนอข้อมูล และวิธีการในการซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งช่างมืออาชีพ รวมถึงขั้นตอนการขัดพื้นปาร์เกต์เพื่อให้พื้นของคุณกลับมาสวยงามอีกครั้ง

ทำความรู้จัก ไม้ปาร์เกต์ คืออะไร

ไม้ปาร์เกต์คือวัสดุปูพื้นที่ทำมาจากไม้แท้ มีลักษณะเฉพาะที่เป็นเสน่ห์ และมีที่มาที่น่าสนใจ ไม้ปาร์เกต์เป็นที่นิยมใช้ในการตกแต่งบ้าน เพราะมีความสวยงาม และความทนทาน ทั้งยังเสริมความหรูหรา และความอบอุ่นให้กับพื้นที่ มีการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่บ้านพักอาศัยไปจนถึงอาคารสำนักงาน

ไม้ปาร์เกต์ดีอย่างไร ทำไมนิยมเอามาทำพื้นบ้าน

ไม้ปาร์เกต์มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยม:

  • ความทนทาน และคงทน: ไม้ปาร์เกต์มีความแข็งแรง ทนทานต่อการสึกหรอ สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายปี
  • ความสวยงาม: ลวดลาย และสีสันของไม้ปาร์เกต์มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความหรูหรา และความอบอุ่นให้กับบ้าน
  • ความหลากหลายของการออกแบบ: มีการออกแบบที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของลวดลาย และสีสัน ทำให้สามารถเลือกใช้ได้ตามสไตล์ที่ต้องการ

ปัญหาที่พบบ่อย และวิธีซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์

ปัญหาที่ทำให้พื้นไม้ปาร์เกต์เสียหายมีหลายสาเหตุ ก่อนที่จะซ่อมพื้นปาร์เกต์นั้น ควรทราบถึงประเภท และสาเหตุของส่วนที่เป็นปัญหานั้นก่อน เพราะในแต่ละปัญหาจะมีวิธีซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์ที่แตกต่างกันไป โดยปัญหาต่างๆ มีดังนี้

1.ปัญหาไม้ปาร์เกต์หลุดล่อน

หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยกับพื้นไม้ปาร์เกต์คือการหลุดล่อนของแผ่นไม้ ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การใช้งานหนัก ความชื้น หรือการติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง ไม้ที่มีปัญหานี้มักจะมีลักษณะเด่นชัด เช่น แผ่นไม้เริ่มแยกจากกัน มีเสียงดังเมื่อเดินผ่าน หรือสัมผัสได้ว่าพื้นไม่แน่นหนาเมื่อก้าวเดิน ในการแก้ไขปัญหานี้ ควรทำความสะอาดพื้นที่ที่หลุดล่อนก่อน แล้วจึงใช้กาวลาเท็กซ์ หรือกาวที่เหมาะสมกับไม้ปาร์เกต์ เพื่อยึดแผ่นไม้ให้แน่นหนากลับเข้าที่ ควรอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกาวลาเท็กซ์ที่ลิงก์นี้ กาวลาเท็กซ์

วิธีซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์

การซ่อมแซมพื้นไม้ปาร์เกต์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ และทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง เพื่อให้พื้นไม้ของคุณกลับมาใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

  • กาวลาเท็กซ์หรือกาวที่เหมาะสมกับไม้ปาร์เกต์
  • ค้อนและตะปู
  • มีดหรือเลื่อยเล็กๆ สำหรับตัดไม้
  • กระดาษทรายหรือเครื่องขัดพื้น
  • ผ้าสะอาดและน้ำยาทำความสะอาดพื้นไม้

ขั้นตอนในการซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์

  1. ตรวจสอบ และเตรียมพื้นที่: ตรวจสอบพื้นที่ที่จะทำการซ่อมแซม ทำความสะอาดพื้นที่นั้น เพื่อให้พร้อมสำหรับการซ่อม
  2. ถอดชิ้นไม้ที่เสียหายออก: ใช้มีด หรือเลื่อยเพื่อถอดชิ้นไม้ที่เสียหายออกอย่างระมัดระวัง
  3. เตรียมชิ้นไม้ใหม่: ตัด หรือเตรียมชิ้นไม้ใหม่ให้พอดีกับพื้นที่ที่เสียหาย
  4. ใช้กาวติดตั้งชิ้นไม้ใหม่: ทากาวลงบนพื้นที่ที่จะติดตั้งชิ้นไม้ใหม่ และวางชิ้นไม้ลงไปให้แน่นหนา
  5. ตรวจสอบ และปรับแต่ง: หลังจากติดตั้งชิ้นไม้ใหม่เสร็จสิ้น ให้ตรวจสอบ และทำการปรับแต่งเล็กน้อย เช่น การขัดพื้น หรือตอกตะปูเพื่อยึดชิ้นไม้ให้แน่นขึ้น
  6. ทำความสะอาด และเสร็จสิ้น: ทำความสะอาดพื้นที่หลังการซ่อมแซม และตรวจสอบความเรียบร้อยของพื้นไม้

2.ปัญหาไม้ปาร์เกต์จากปลวก

ปลวกเป็นศัตรูตัวร้ายของไม้ปาร์เกต์ ซึ่งมักจะเข้ามาทำลายไม้โดยที่เราไม่ทันสังเกตเห็น สาเหตุหลักที่ทำให้ปลวกมากินไม้ได้ คือความชื้นที่สูงภายในบ้าน หรือไม้ที่มีการสัมผัสกับดิน ลักษณะของไม้ที่มีปัญหาปลวกกิน มักจะมีรู หรือช่องเล็กๆ บนพื้นผิวของไม้ บางครั้งอาจพบผงไม้รอบๆ พื้นที่ที่ปลวกทำลาย การสังเกตเห็นเศษไม้ หรือร่องรอยที่ผิดปกติบนพื้นไม้เป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยให้รู้ว่าพื้นไม้ของคุณกำลังถูกปลวกทำลายหรือไม่

วิธีซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับใช้ในการซ่อมพื้นปาร์เกต์มีดังนี้

  • อุปกรณ์ทำความสะอาด
  • เลื่อยหรือมีด
  • กาวสำหรับติดไม้
  • ไม้ปาร์เกต์อันใหม่
  • ตะปูหรือแคลมป์ยึดไม้

ขั้นตอนในการซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์ที่เสียหายจากปลวก

  1. ตรวจสอบ และเตรียมพื้นที่: ตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากปลวกอย่างละเอียด ทำความสะอาด และเตรียมพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการซ่อม
  2. ถอดชิ้นไม้ที่เสียหาย: ใช้เครื่องมือ เช่น มีด หรือเลื่อยในการถอดชิ้นไม้ที่ถูกปลวกทำลายออกจากพื้น
  3. ทำความสะอาด และประเมินความเสียหาย: ทำความสะอาดพื้นที่ และประเมินขอบเขตของความเสียหาย เพื่อกำหนดวิธีการซ่อมที่เหมาะสม
  4. เตรียม และติดตั้งไม้ใหม่: เตรียมไม้ปาร์เกต์ใหม่ที่ตรงกับสี และลวดลายของพื้นเดิม ตัดให้พอดีกับพื้นที่ที่ต้องการซ่อมแซม และทากาวไม้เพื่อติดตั้ง
  5. ทำการยึด และปรับแต่ง: ใช้ตะปู หรือแคลมป์ยึดไม้ใหม่ให้แน่นหนากับพื้น เมื่อกาวแห้ง ให้ทำการขัด และปรับแต่งให้เรียบร้อย
  6. ทำความสะอาด และตรวจสอบความเรียบร้อย: หลังจากที่งานซ่อมแซมเสร็จสิ้น ทำความสะอาดพื้นที่ และตรวจสอบความเรียบร้อยของการซ่อม

การซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์ที่ถูกปลวกทำลายต้องใช้ความระมัดระวัง และต้องทำการกำจัดปลวกอย่างหมดจด เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

ดูผลิตภัณฑ์กำจัดปลวกเพิ่มเติมที่ https://www.toagroup.com/th/products/wood-coatings?subCategory=9

3.ปัญหาไม้ปาร์เกต์บวมพอง

เป็นปัญหาที่สามารถพบได้บ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งอาการไม้ปาร์เกต์บวมพอง สาเหตุหลักๆ เกิดจากความชื้น และน้ำ ซึ่งความชื้นนั้นอาจเกิดได้จากการที่ช่างรีบปูไม้ปาร์เกต์ขณะที่พื้นปูนยังไม่แห้งสนิท และยังคงมีความชื้นอยู่ เมื่อปูไม้ทับลงไป ความชื้นก็ต้องหาทางระบายออกมา จึงทำให้พื้นเสียหายได้ หรืออาจเกิดจากที่ทำน้ำหกลงพื้นแล้วไม่รีบเช็ดออก ทำให้พื้นเกิดการบวมจากน้ำที่ซึมเข้าไปได้ ความจริงแล้ว ไม้ปาร์เกต์จะต้องมีการทาน้ำยาเคลือบสำหรับรักษาเนื้อไม้หลายชั้น แต่ช่วงรอยต่อของไม้อาจทำให้ของเหลวซึมเข้าไปทำความเสียหายแก่ไม้ได้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์เคลือบพื้นที่มีคุณภาพ เพื่อไม่ให้น้ำซึมเข้าผิวไม้ปาร์เกต์

วิธีซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับใช้ในการซ่อมพื้นปาร์เกต์มีดังนี้

  • อุปกรณ์ทำความสะอาด
  • ไดร์เป่าผมหรือเตารีด
  • กระดาษทราย
  • สีทาไม้ สีเคลือบ

ขั้นตอนในการซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์ที่มีลักษณะบวมพอง

  1. ใช้ความร้อนในการไล่ความชื้นออก: ใช้ไดร์เป่าผม หรือเตารีดเป็นตัวนำความร้อนในการไล่ความชื้นออกซึ่งหากเป็นเตารีดจะดีกว่า เพราะจะช่วยรีดทับตัวแผ่นไม้ที่บวมให้เรียบไปด้วยเลย
  2. นำกระดาษมาขัดพื้นให้เรียบ: เมื่อไล่ความชื้นออกแล้ว พื้นอาจจะยังไม่เรียบเนียน หรือใช้เตารีดแล้วก็ยังไม่เรียน ให้ใช้กระดาษทรายมาช่วยขัดพื้นให้เรียบเสมอกัน
  3. ทาสีเคลือบไม้: เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาไม้ปาร์เกต์บวมพองอีก ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบไม้ที่ช่วยป้องกันการซึมของน้ำ 

เป็นวิธีซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองในกรณีที่พื้นไม้บวมด้านบน แต่ถ้าหากพื้นไม้ปาร์เกต์บวมพองจากความชื้นด้านล่าง อาจจะต้องเรียกใช้บริการช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาแก้ปัญหา เพราะเป็นงานที่ค่อนข้างยาก และอาจจะต้องใช้อุปกรณ์สำหรับรื้อพื้นไม้ออก การซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์บวมพองจึงขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา

4.ปัญหาไม้ปาร์เกต์ระเบิด

​​ไม้ปาร์เกต์ระเบิดไม่ใช่ปัญหาที่พบได้บ่อยนัก โดยปัญหานี้ พื้นไม้จะมีลักษณะดันตัวโก่งงอขึ้นมา สาเหตุอาจเกิดได้จากเทคนิคการปูไม้ เพราะว่าไม้ปาร์เกต์ตามธรรมชาติเป็นวัสดุที่มีการยืดหดตัวสูง หากปูไม้ปาร์เกต์อัดแน่นเกินไป ไม่เว้นพื้นที่ให้ไม้ขยายตัว จะทำให้ไม้ปาร์เกต์ดันตัวจนระเบิดโก่งงอขึ้นมาได้ หรืออีกสาเหตุหนึ่งคือการปูไม้ปาร์เกต์ในห้องปิดตาย ในช่วงแรกของการจบงานทำพื้นไม้ปาร์เกต์ จะยังไม่มีผู้อาศัยอยู่ การปิดประตูห้องทิ้งไว้โดยไม่มีการถ่ายเทของอากาศจะทำให้ไม้ปาร์เกต์ยังมีความชื้นอยู่ จึงทำให้ไม้มีการขยายตัวมากกว่าปกติ จนทำให้พื้นไม้เกิดระเบิดขึ้นมาได้

วิธีซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับใช้ในการซ่อมมี ดังนี้

  • ทรายสำหรับขัดพื้น
  • กาวสำหรับติดไม้
  • เครื่องถอดไม้ เช่น ค้อน สว่าน ตะปู

การซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์มีขั้นตอนการซ่อมดังนี้:

  • การเตรียมพื้นที่: ทำความสะอาดพื้นที่ที่จะทำการซ่อม และย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือสิ่งของออกจากพื้นที่
  • การตรวจสอบพื้น: หาจุดที่พื้นไม้ปาร์เกต์เริ่มบวม หรือเสียหาย
  • การถอดไม้ปาร์เกต์ที่เสียหาย: ใช้เครื่องมือในการถอดชิ้นไม้ที่บวม หรือเสียหายออก
  • การขัดพื้น: ขัดส่วนที่มีปัญหาด้วยกระดาษทราย เพื่อให้เรียบ และลดระดับความชื้น
  • การติดตั้งไม้ใหม่: ตัด และวัดขนาดไม้ปาร์เกต์ใหม่ให้เข้ากับพื้นที่ที่ถอดออกไป แล้วติดตั้งด้วยกาวสำหรับไม้
  • การตรวจสอบ และทำความสะอาด: หลังจากที่ติดตั้งเรียบร้อย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม้ปาร์เกต์ติดแน่นและเรียบเนียนดี จากนั้นให้ทำความสะอาดพื้นที่ให้เรียบร้อย

การซ่อมแซมพื้นไม้ปาร์เกต์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง และความใส่ใจในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

วิธีเช็กคุณภาพพื้นไม้ปาร์เกต์ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหา

แม้จะรู้วิธีซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์ไปแล้ว แต่การรู้วิธีป้องกันนั้นดีกว่าการมาซ่อมทีหลังแน่นอน ซึ่งหากไม่อยากให้ไม้ปาร์เกต์ที่คุณเลือกมานั้นเกิดความเสียหายภายหลัง มาดูวิธีตรวจเช็กคุณภาพพื้นไม้ปาร์เกต์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามที่ได้กล่าวมากันดีกว่า  โดยจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1.ตรวจเช็กชนิดของไม้ปาร์เกต์

การตรวจเช็กชนิดของไม้ปาร์เกต์เป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะว่าไม้ปาร์เกต์เป็นพื้นไม้จริง ซึ่งคุณภาพจะมีตั้งแต่ถูกจนถึงแพง เมื่อเรารู้จักชนิดของไม้ และเมื่อเราบอกสเปคไม้ที่ต้องการกับช่าง เราก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่าชนิดไม้ และคุณภาพของไม้ตรงตามที่ช่างซื้อมาหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาที่ช่างซื้อของถูกมา แต่คิดในราคาที่สูงกว่าคุณภาพได้

ไม้ปาร์เกต์จะมีคุณภาพที่แตกต่างกันไป มีสีสัน และลวดลายที่แตกต่างกันตามแต่ละชนิด ซึ่งมีการแบ่งเกรดตั้งแต่เกรด B, AB, A, AA และ AAA โดยสามารถตรวจเช็กไม้ปาร์เกต์เกรดดีได้ดังนี้

  • มีสีสม่ำเสมอกัน
  • ผิวไม้เรียบเนียน ไม่มีตำหนิ
  • มีการเคลือบน้ำยารักษาเนื้อไม้ไว้อย่างดี

2.ตรวจเช็กพื้น ก่อนปูพื้นปาร์เกต์

ก่อนปูพื้นไม้ปาร์เกต์ควรตรวจเช็กพื้นให้ดีก่อนว่าได้ระดับ และเรียบเนียนหรือไม่ หากมีพื้นไม่เรียบจะต้องมีการเทปูน เพื่อปรับระดับพื้นให้เท่ากัน และต้องรอให้พื้นแห้ง เนื่องจากไม้ปาร์เกต์เป็นไม้จริง ดังนั้น ห้ามให้โดนน้ำ  หรือทำให้เกิดความชื้น เพราะไม้จะบวมได้

โดยขั้นตอนในการตรวจเช็กพื้นก่อนปูไม้ทำได้ดังนี้

  • ปูแผ่นพลาสติกกันน้ำคลุมพื้นทิ้งไว้หลายวัน
  • เมื่อผ่านไปหลายวันแล้ว ให้ดูว่ามีไอน้ำมาเกาะใต้แผ่นพลาสติกหรือไม่
  • กรณีที่เป็นพื้นชั้นล่างติดกับพื้นดิน จะต้องทำระบบกันซึมโดยรอบก่อน เพื่อป้องกันความชื้นจากพื้นดิน ซึ่งอาจจะใช้พลาสติกปูกับพื้นก่อนเทคอนกรีต
  • หากมีการปูไม้ปาร์เกต์ทับกับวัสดุเดิม ให้ตรวจดูว่ามีการปูแผ่นยางทับหน้าวัสดุเดิมไว้ก่อนหรือไม่ เพื่อปรับระดับพื้นให้เรียบก่อนจะปูไม้ปาร์เกต์อีกที แต่ไม่แนะนำให้ปูไม้ปาร์เกต์ทับวัสดุเดิม ควรเลาะวัสดุเดิมออกก่อน แล้วค่อยเทปูนปรับระดับใหม่
  • เมื่อพื้นปรับระดับ และปล่อยไว้ให้แห้งแล้ว ให้กวาดฝุ่นทำความสะอาดพื้นก่อนที่จะให้ช่างเริ่มปูพื้นในขั้นต่อไป

3.ตรวจเช็กในขั้นตอนปูพื้นปาร์เกต์

ในขั้นตอนการปูพื้นปาร์เกต์นั้นไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะจะต้องใช้กาวลาเท็กซ์ค่อยๆ ทยอยทาเป็นช่วงๆ โดยจะต้องตรวจเช็กชนิดของกาวสำหรับไม้ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม และไม้ปาร์เกต์ชนิดนั้น เนื่องจากกาวสำหรับใช้ทาไม้เพื่อติดตั้ง มีทั้งกาวธรรมดาที่เหมาะแค่ยึดเกาะอย่างเดียว และกาวที่สำหรับป้องกันสิ่งต่างๆ เช่น ป้องกันความชื้น หรือป้องกันปลวกกิน เป็นต้น

โดยการตรวจเช็กขั้นตอนปูพื้นไม้ทำได้ดังนี้

  • ตรวจเช็กดูว่าช่างใช้กาวลาเท็กซ์แบบไหน ใช้กาวที่เหมาะสมกับประเภทของไม้หรือไม่ มีกาวหลายยี่ห้อที่เพิ่มส่วนผสมเพื่อช่วยป้องกันในเรื่องต่างๆ เช่น ผสมสารกันปลวก หรือกาวสำหรับทนความชื้นได้ดี
  • กรณีที่ไม้ปาร์เกต์มีขนาดค่อนข้างยาว อาจจะต้องใช้การปูแบบวางตรงไม้รองพื้น และใช้ตะปูยึด เพื่อป้องกันไม้ดีด และโก่งขึ้นมา
  • ตรวจเช็กตำแหน่งการเผื่อขอบ เพื่อสามารถจบงานได้โดยพอดีกับพื้นที่
  • ตรวจเช็กการตัดเศษให้พอดีกับพื้นที่เหลือ
  • ตรวจเช็กการเผื่อช่องว่างสำหรับเผื่อให้ไม้ขยายตัว
  • ตรวจเช็กว่าช่างปูไม้ปาร์เกต์ได้ถูกต้องกับรูปแบบที่เลือกไว้หรือไม่

4.ตรวจเช็กในขั้นตอนการขัดพื้นปาร์เกต์

การตรวจเช็กขั้นตอนการขัดพื้นปาร์เกต์นั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะต้องดูว่าพื้นไม้ที่ปูนั้นมีช่วงที่ไม่เสมอกันหรือไม่ หรือระดับพื้นไม้มีความสวยงามหรือเปล่า เพราะหากช่างตรวจสอบไม่ทั่ว อาจมีส่วนที่เรียบไม่เท่ากันได้ ดังนั้น จึงต้องเช็กอีกทีหลังช่างทำเสร็จแล้ว เพื่อที่จะขัดได้ทั่วทุกตำแหน่งอย่างทันเวลา

โดยในขั้นตอนนี้ สามารถตรวจเช็กได้ดังนี้

  • ในขณะที่ช่างกำลังขัด และทำความสะอาด หากมีเฟอร์นิเจอร์อยู่ใกล้ๆ กับบริเวณที่ขัด ให้นำพลาสติกมาคลุมก่อน เพราะในขั้นตอนนี้ จะเกิดฝุ่นจากการขัดค่อนข้างมาก
  • ตรวจเช็กขณะช่างขัด ไม่ควรมีการขัดพื้นไม้ปาร์เกต์มากเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหน้าบาง
  • เมื่อช่างขัดเสร็จเรียบร้อย ให้ดูความเรียบร้อยของงาน ว่าขัดได้เรียบเท่ากันทั้งแผ่นหรือไม่

5.ตรวจเช็กในขั้นตอนการเลือกสี

ในขั้นตอนนี้ การตรวจเช็กการลงสีเป็นขั้นตอนสุดท้าย ยึดความต้องการของเราเป็นหลักว่าต้องการให้หน้าไม้สำหรับพื้นเป็นแบบไหน จะสีเข้ม หรือสีอ่อน ก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนในการลงเคลือบด้วย

โดยในขั้นตอนนี้สามารถตรวจเช็กได้ดังนี้

  • ในขั้นแรกให้ทำการคุยกับช่างให้ชัดเจนว่าต้องการแบบไหน เช่น ต้องการให้พื้นเป็นผิวมัน ผิวด้าน ซึ่งอาจจะให้ช่างเป็นคนแนะนำ หรือเราเป็นคนหาเองก็ได้ หากต้องการให้มีความทนทานมาก ป้องกันน้ำซึม ป้องกันการกระแทก ส่วนมากจะนิยมใช้พวกโพลียูรีเทน หรือที่เรียกกันว่าน้ำมันเคลือบแข็งพื้นไม้ ซึ่งทางทีโอเอมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ในส่วนนี้ คือ ทีโอเอ โพลียูรีเทน ชนิดเงา ระบบ 2 ส่วน มีคุณสมบัติยึดเกาะกับไม้ได้ดี ทนทาน และป้องกันการซึมของน้ำได้อย่างดี ดังนั้น ควรศึกษาคู่มือผลิตภัณฑ์ก่อนให้ช่างเริ่มงาน
  • ต้องทาแค่เฉพาะด้านบน ส่วนใต้แผ่นที่ปูห้ามทา เพราะจะทำให้ไม้ปาร์เกต์ไม่ติดกับกาว และจะหลุดออกได้ง่าย
  • หลังทาเสร็จแล้วให้ทิ้งไว้หลายๆ วัน เพื่อให้สีเคลือบแห้งก่อนถึงจะใช้งานได้

วิธีดูแลไม้ปาร์เกต์ให้ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน 

ถึงแม้ว่าจะมีวิธีซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์ที่สามารถทำได้เอง แต่ทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้ปัญหานั้นเกิดขึ้น หากต้องการให้พื้นไม้ปาร์เกต์อยู่คงทน ใช้ไปได้นานๆ ควรมีการดูแลรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งวิธีในการดูแลไม้ปาร์เกต์สามารถทำได้ดังนี้

  • ป้องกันรอยขีดข่วนได้ด้วยการปูพรมบนพื้นบริเวณที่มีโอกาสเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย เช่น บริเวณโต๊ะเก้าอี้ หรือโซฟา เพื่อลดแรงขีดข่วน และยังสามารถจับสิ่งสกปรกได้อีกด้วย
  • เมื่อน้ำหกลงพื้นไม้ให้เช็ดทันที เพื่อป้องกันการเกิดความชื้น ที่ก่อให้เกิดอาการไม้บวมน้ำได้
  • ทำความสะอาดพื้นอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อป้องกันคราบฝังแน่น และเมื่อเห็นคราบเลอะ ให้ทำความสะอาดทันที
  • ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนประกอบของแอมโมเนีย เพราะจะทำให้เกิดการกัดกร่อนไม้ได้

สรุป

ไม้ปาร์เกต์ คือวัสดุปูพื้นที่ทำมาจากไม้แท้ มีลักษณะเฉพาะที่เป็นเสน่ห์ ซึ่งส่วนมากจะนิยมใช้ในการตกแต่งบ้านเนื่องจากไม้ปาร์เกต์มีความสวยงาม หรูหรา แถมยังมีความทนทาน นอกจากนี้ ยังมีความหลากหลายของการออกแบบ ทั้งในแง่ของสีสัน และลวดลายอีกด้วย แต่เนื่องจากไม้ปาร์เกต์เป็นไม้แท้ อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้มากมายหากไม่ดูแลให้ดี ซึ่งปัญหาที่พบได้บ่อย เช่น ไม้ปาร์เกต์หลุดล่อน ถูกปลวกกิน ไม้บวมน้ำ หรือไม้ปาร์เกต์ระเบิด โดยสาเหตุหลักๆ มาจากการที่ปูไม้ไม่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการไม่ดูแลทำความสะอาดให้ดี หรือการไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันหน้าไม้เสียหาย เป็นต้น

เพราะฉะนั้น ก่อนเริ่มปูพื้นไม้ปาร์เกต์ ควรตรวจเช็กทุกขั้นตอนให้ดีก่อน ตั้งแต่เริ่มดูชนิดไม้ ไปจนถึงการเลือกสี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมา ถึงแม้ว่าจะมีวิธีซ่อมพื้นไม้ปาร์เกต์ด้วยตัวเอง แต่การป้องกันก็ย่อมดีกว่าการซ่อมแซมทีหลัง จึงควรดูแลอย่างถูกวิธี เพื่อให้ไม้อยู่คงทน และเพื่อให้ใช้ไปได้นานๆ

Scroll to Top